เมนู

ก็ไม่ใช่ความว่า คจฺฉนฺเตสุ คำนั้น ไม่พึงถือเอาแต่แง่เดียว เหมือนอย่าง
ว่าในคำว่า อริยา นยฺยานิกา นี้ มีความว่า นิยฺยนฺตา ไม่ใช่มีความว่า
นิยฺยาตพฺพา ฉันใด แม้ในที่นี้ ก็มีความว่า คจฺฉนฺเตสุ ไม่ใช่มีความว่า
คนฺตพฺเพสุ ฉันนั้น.
อีกอย่างหนึ่ง เพราะเหตุที่ผู้นี้ ประสงค์จะให้แก่ใคร ๆ ในเวลาจะตาย
ก็จับต้องโภคะให้ไม่ได้ ฉะนั้น โภคะเหล่านั้น อันเขาจำต้องละไปทางกายก่อน
ภายหลัง จึงจำต้องจากไปทางใจที่หมดหวัง ท่านอธิบายว่า. พึงล่วงเลยไป
เพราะฉะนั้น จึงควรเห็นความในข้อนี้อย่างนี้ว่า บรรดาโภคะทั้งหลายที่จำต้อง
ละไปทางกายก่อน ภายหลัง จึงต้องละไปทางใจ. ในความข้อต้น สัตตมี-
วิภัตติ ลงในนิทธารณะว่า บรรดาโภคะทั้งหลายที่จำต้องละไป เขาก็นำโภคะ
คือบุญนิธินั้นอย่างเดียวเท่านั้น ออกจากโภคะทั้งหลาย พาไป. ในความข้อ
หลัง สัตตมีวิภัตติ ลงในภาวลักขณะ โดยภาวะว่า ก็โดยภาวะที่โภคะทั้งหลาย
ติดตามไป ก็ย่อมกำหนดภาวะคือขุมทรัพย์นั้นพาไปด้วยได้.

พรรณนาคาถาที่ 9


พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้น ทรงแสดงความต่างของบุญนิธินี้ จากขุม-
ทรัพย์ที่เขาฝังไว้ในที่ลึก มีน้ำเป็นที่สุด เมื่อทรงยังอุตสาหะให้เกิดแก่เทดา
และมนุษย์ทั้งหลายในบุญนิธินั้น ด้วยการพรรณนาคุณบุญนิธิที่ทรงแสดงด้วย
พระองค์อีก เหมือนพ่อค้าผู้ค้าสินค้าอันโอฬาร ยังอุตสาหะให้เกิดแก่คนซื้อ
ด้วยการพรรณนาคุณสินค้าของตนฉะนั้น จึงตรัสว่า
บุญนิธิคือขุมทรัพย์ ไม่สาธารณะแก่ชนเหล่าอื่น
โจรก็ลักไปไม่ได้ บุญนิธิอันใด ติดตามตนไปได้
ปราชญ์พึงทำบุญนิธิอันนั้น.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อสาธารณมญฺเญสํ แปลว่า ไม่ทั่วไป
แก่ชนเหล่าอื่น. ม อักษร ทำบทสนธิ เหมือนในประโยคเป็นต้นว่า อทุกฺขม-
สุขาย เวทนาย สมฺปยุติตา
ประกอบด้วยเวทนาที่ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุข.
นิธิ อันโจรทั้งหลายลักไปไม่ได้ ชื่อว่า อโจราหรโณ. อธิบายว่า ย่อม
เป็นนิธิ ที่โจรทั้งหลายลักพาไปไม่ได้. ชื่อว่า นิธิ เพราะเขาฝังไว้.
พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นทรงพรรณนาคุณของบุญนิธิ ด้วยสองบทต้นอย่างนี้
แล้ว จากนั้นก็ทรงยังอุตสาหะให้เกิดในบุญนิธินั้นด้วยสองบทหลังจึงตรัสว่า
บุญนิธิอันใด ติดตามตนไปได้ ปราชญ์พึงทำบุญนิธิอันนั้น.
คาถานั้นมีความว่า เพราะเหตุที่ธรรมดาบุญนิธิไม่สาธารณะแก่ชน
เหล่าอื่น และเป็นนิธิที่โจรลักไปไม่ได้. แต่ก็มิใช่นิธิที่ไม่สาธารณะ และ
โจรลักไปไม่ได้อย่างเดียวดอก แท้จริง ยังเป็นนิธิที่ตรัสไว้อย่างนี้ว่า นิธิ
นั้น ฝังไว้ดีแล้ว อันใคร ๆ ผจญไม่ได้ ตามคนไปได้. นิธิใด ติดตาม
ในรูปได้ เพราะเหตุที่นิธินั้นเป็นบุญที่อย่างเดียว ฉะนั้น. ปราชญ์คือบุคคล
ผู้ถึงพร้อมด้วยพุทธความรู้ ถึงพร้อมด้วยธิติคือปัญญา พึงทำบำเพ็ญบุญ
ทั้งหลาย.

พรรณนาคาถาที่ 10


พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นทรงยังอุตสาหะให้เกิดแก่เทวดาและมนุษย์
ทั้งหลาย ในบุญนิธิ ด้วยการพรรณนาคุณอย่างนี้แล้ว บัดนี้ ชนเหล่าใด
อุตสาหะแล้ว ทำอุตสาหะนั้นให้สำเร็จผล ด้วยการทำบุญนิธิ บุญนิธิของชน
เหล่านั้น ย่อมให้ผลอันใด เมื่อทรงแสดงผลอันนั้นโดยสังเขป จึงตรัสว่า
นิธินั้น ให้ผลที่น่าใคร่ทุกอย่างแต่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย.